วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 นายกานต์ กัลป์ตินันท์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้
นายสิทธิพล เลาหะวนิช รองนายก อบจ.อุบลราชธานี ร่วมให้การต้อนรับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะที่เดินทางมาติดตามการขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีโดยมีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับ และ รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ณ หอประชุมศาลาประชาคม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
นายสิทธิพล เลาหะวนิช รองนายก อบจ.อุบลราชธานี ร่วมให้การต้อนรับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะที่เดินทางมาติดตามการขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีโดยมีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับ และ รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ณ หอประชุมศาลาประชาคม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ตามที่จังหวัดอุบลราชธานีได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในปี 2565 เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
พายุ”มู่หลาน”และพายุ “โนรู” ทำให้มีปริมาณฝนตกสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 จำนวน 2,425.3 มิลลิเมตร ประกอบกับมวลน้ำในลุ่มแม่น้ำมูล และแม่น้ำชี จากจังหวัดทางตอนเหนือจังหวัดอุบลราชธานีขึ้นไปมีปริมาณน้ำมากไหลมารวมกันที่จังหวัดอุบลราชธานีในห้วงเวลาเดียวกันทำให้จังหวัดอุบลราชธานีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยทั้งด้านการดำรงชีพและด้านการเกษตรจำนวน 21 อำเภอ 161 ตำบล 1,612 หมู่บ้าน โดยสถานการณ์ปัจจุบันยังคงเหลือ 3 อำเภอได้แก่ อ.เมืองอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ และอ.สว่างวีระวงศ์ จากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพและสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ ก่อนจะเดินทางไปยังโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร และพื้นที่ผู้ประสบอุทกภัยอำเภอเมืองอุบลราชธานีต่อไป
พายุ”มู่หลาน”และพายุ “โนรู” ทำให้มีปริมาณฝนตกสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 จำนวน 2,425.3 มิลลิเมตร ประกอบกับมวลน้ำในลุ่มแม่น้ำมูล และแม่น้ำชี จากจังหวัดทางตอนเหนือจังหวัดอุบลราชธานีขึ้นไปมีปริมาณน้ำมากไหลมารวมกันที่จังหวัดอุบลราชธานีในห้วงเวลาเดียวกันทำให้จังหวัดอุบลราชธานีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยทั้งด้านการดำรงชีพและด้านการเกษตรจำนวน 21 อำเภอ 161 ตำบล 1,612 หมู่บ้าน โดยสถานการณ์ปัจจุบันยังคงเหลือ 3 อำเภอได้แก่ อ.เมืองอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ และอ.สว่างวีระวงศ์ จากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพและสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ ก่อนจะเดินทางไปยังโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร และพื้นที่ผู้ประสบอุทกภัยอำเภอเมืองอุบลราชธานีต่อไป
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง
โทร 045-250-333
สมใจ-ข่าว/จีรพงศ์-ภาพ/พิสุทธิ์-ตรวจ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี